ความเร็วอินเตอร์เน็ต 1 Mbps ใช้ได้ไหม ใช้งานอะไรได้บ้าง

ความเร็วอินเตอร์เน็ต 1 Mbps ใช้ได้ไหม ใช้งานอะไรได้บ้าง

ข่าวสาร | .., 12 ตุลาคม 2568 | แนะนำ

ความเร็วอินเตอร์เน็ต 1 Mbps ใช้ได้ไหม และเหมาะกับใครบ้าง

ในยุคที่ทุกอย่างต้องไว ตั้งแต่ทำงานออนไลน์ ประชุมวิดีโอ ไปจนถึงดูซีรีส์ตอนดึกอินเทอร์เน็ตกลายเป็นเหมือนลมหายใจของชีวิต… ในยุค 5G นี้เราก็ยังได้เห็นเน็ตความเร็ว 1 Mbps จากเน็ตหมดบ้าง หรือทางแพ็กเกจโปรเน็ต 1 Mbpsไม่ลดสปีด ใช้ไม่อั้น จากทางค่ายใหญ่ๆไม่ว่าจะเป็น true หรือ ais อยู่บ้าง ตั้งแต่ 1 วัน ถึง 30 วันหลายๆคนก็สงสัย "เน็ต 1 Mbps จะยังพออะไรบ้างน้า? ใช้อะไรได้บ้างนะ?


ก่อนที่เราจะไปมาทำความรู้จักกับหน่วย Mbps กันหน่อยดีกว่า

Mbps ย่อมาจาก Megabits per second
แปลว่า “เมกะบิตต่อวินาที” ( ใช้วัด ความเร็วอินเทอร์เน็ต )

ลองนึกง่าย ๆ ว่า:

  • Mbps = ความเร็วในการขนของ (ข้อมูล)
    ยิ่งตัวเลขเยอะ รถขนของก็ยิ่งวิ่งเร็ว ยิ่งตัวเลขน้อย รถก็จะค่อย ๆ เคลื่อนแบบเต่าคลาน

ตัวอย่างให้เข้าใจง่าย:

  • 1 Mbps → โหลดช้า (เหมือนถนนเลนเดียว)

  • 10 Mbps → โหลดได้ไวขึ้น (ถนนหลายเลน)

  • 100 Mbps → โหลดแรงสุด วิ่งฉิวทุกแอป

ถ้าอินเทอร์เน็ตความเร็ว 1 Mbps จะดาวน์โหลดข้อมูลได้ประมาณ 125 กิโลไบต์ต่อวินาที
หรือพูดง่าย ๆ คือ ถ้าไฟล์ขนาด 10 เมกะไบต์ (MB) จะใช้เวลาประมาณ 80 วินาที ถึงจะโหลดเสร็จ
ซึ่งถือว่า ค่อนข้างช้า เมื่อเทียบกับความเร็วอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันที่ส่วนใหญ่เริ่มต้นกันที่ระดับ 100 Mbps ขึ้นไป 

งั้น เน็้ต 1 Mbps ใช้อะไรได้บ้างละ

ความเร็วอินเทอร์เน็ต 1 Mbps (เมกะบิตต่อวินาที) ถือว่าอยู่ในระดับพื้นฐาน เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปที่ไม่ต้องใช้แบนด์วิดท์สูงมากนัก แม้จะไม่เร็ว แต่ก็ยังเพียงพอสำหรับกิจกรรมบางประเภทในชีวิตประจำวัน ดังรายละเอียดต่อไปนี้

การใช้งานที่สามารถทำได้ดี

  1. แอปแชตและข้อความ

    • ใช้งาน LINE, Messenger, WhatsApp ได้ตามปกติ

    • ส่งข้อความ รูปภาพขนาดเล็ก และสติ๊กเกอร์ได้

    • การโทรด้วยเสียงผ่านอินเทอร์เน็ต (VoIP) เช่น LINE Call หรือ Messenger Call สามารถทำได้ แต่ควรอยู่ในพื้นที่สัญญาณดี

    • ส่งอีเมล

  2. ท่องเว็บไซต์ทั่วไป

    • เข้าเว็บไซต์ข่าว ค้นหาข้อมูลจาก Google หรืออ่านบทความได้

    • โหลดหน้าเว็บที่มีข้อความและรูปภาพขนาดเล็กได้รวดเร็วพอสมควร

    • เว็บไซต์ที่มีวิดีโอหรือภาพความละเอียดสูงอาจใช้เวลาโหลดนาน

  3. สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)

    • เล่น Facebook, Instagram, TikTok ได้

    • เลื่อนดูฟีด รูปภาพ หรือวิดีโอสั้น ๆ ได้ แต่หากคลิปมีความละเอียดสูงอาจกระตุก

    • เหมาะกับการใช้งานทั่วไป เช่น อ่านโพสต์ ตอบคอมเมนต์ หรือดูสตอรี่

  4. ดูวิดีโอออนไลน์และฟังเพลง

    • ดู YouTube ได้ที่ความละเอียดประมาณ 240p–360p (ภาพไม่คมชัดมาก)

    • ฟังเพลงออนไลน์ผ่าน Spotify, Joox หรือ YouTube Music ได้โดยไม่สะดุดมากนัก

    • หากมีการใช้งานอื่นร่วม เช่น ดาวน์โหลดหรืออัปเดตแอป อาจเกิดการหน่วง

การใช้งานที่อาจมีปัญหา

  1. ประชุมออนไลน์หรือเรียนออนไลน์

    • ใช้งานได้แต่ไม่ราบรื่น ภาพและเสียงอาจขาดหายหรือดีเลย์

    • หากเปิดกล้องและแชร์หน้าจอพร้อมกัน อาจกระตุกหรือหลุดจากห้องประชุม

  2. เล่นเกมออนไลน์

    • เกมที่ใช้ข้อมูลน้อย เช่น เกมแนวเทิร์นเบสหรือเกมมือถือทั่วไปพอเล่นได้

    • แต่เกมที่ต้องการความเร็วสูง เช่น เกมยิง (FPS) หรือ MOBA อาจมีอาการแลคและดีเลย์

  3. ดาวน์โหลดหรืออัปโหลดไฟล์ขนาดใหญ่

    • ความเร็ว 1 Mbps จะดาวน์โหลดได้ประมาณ 125 KB ต่อวินาที

    • หากไฟล์มีขนาด 100 MB จะใช้เวลาประมาณ 13–15 นาที ในการดาวน์โหลด

    • การอัปโหลดรูปภาพหรือวิดีโอขึ้นโซเชียลอาจใช้เวลานาน

เมื่อเห็นอย่างนี้แล้วทุกคนต่างมองข้ามไปเลยทันที แต่เดี๋ยวก่อน!!

เมื่อเห็นอย่างนี้ หลายคนอาจมองว่าอินเทอร์เน็ตความเร็ว 1 Mbps ช้าเกินไป ไม่น่าใช้งาน หรือสงสัยว่าทำไมยังมีแพ็กเกจลักษณะนี้ให้เลือกอยู่ แต่เดี๋ยวก่อน! ความเร็วระดับนี้ยังมีประโยชน์ในบางกรณีที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง

จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่า แม้ความเร็ว 1 Mbps จะไม่เหมาะกับการดูวิดีโอความละเอียดสูงหรือการประชุมออนไลน์ แต่ก็ เพียงพอต่อการใช้งานพื้นฐาน เช่น การส่งข้อความ การเชื่อมต่อแอปโซเชียล หรือใช้งานอีเมลทั่วไปได้อย่างราบรื่น

แต่จริง ๆ แล้ว อินเทอร์เน็ตระดับนี้ยังมีประโยชน์มากกว่าที่หลายคนคิด โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยี IoT (Internet of Things) หรือ “อุปกรณ์อัจฉริยะ” เข้ามาอยู่รอบตัวเรามากขึ้นทุกวัน

ลองคิดดูง่าย ๆ ครับ — สมัยนี้แค่ในบ้านเราหลังเดียว ก็มีอุปกรณ์ที่ต้องต่ออินเทอร์เน็ตเต็มไปหมด
ไม่ว่าจะเป็นกล้องวงจรปิด เครื่องปรับอากาศอัจฉริยะ หลอดไฟสั่งเปิด-ปิดผ่านมือถือ หรือแม้แต่เครื่องรดน้ำอัตโนมัติในสวนหลังบ้าน
อุปกรณ์เหล่านี้ไม่ต้องใช้ความเร็วอินเทอร์เน็ตสูงเลย ขอแค่มี สัญญาณนิ่งและเสถียร ก็เพียงพอแล้ว

ยกตัวอย่างเช่นใน ระบบ Smart Farm ที่เกษตรกรใช้ตรวจสภาพดิน อุณหภูมิ ความชื้น และควบคุมระบบน้ำผ่านมือถือ
ข้อมูลที่ส่งออกไปมีขนาดเล็กมาก แค่ไม่กี่กิโลไบต์ต่อครั้ง ดังนั้น ความเร็วระดับ 1 Mbps ก็เหลือเฟือสำหรับการทำงานเหล่านี้

เพราะแบบนี้แหละครับ ค่ายมือถือใหญ่ ๆ อย่าง AIS, True, และ DTAC จึงยังคงมีแพ็กเกจหรือซิมเฉพาะที่เรียกว่า “ซิม IoT” ออกมาโดยเฉพาะ
ซิมลักษณะนี้จะเน้นให้ใช้งานได้ยาวนาน ความเร็วไม่สูงมาก (ประมาณ 1–3 Mbps) แต่เสถียร และมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าแพ็กเกจเน็ตทั่วไปมาก

บางแพ็กเกจใช้งานได้ยาวนานถึง 1 ปีเต็ม ในราคาเพียงไม่กี่ร้อยบาท เหมาะกับการนำไปติดตั้งในอุปกรณ์ที่ต้องทำงานตลอดเวลา เช่น

  • กล้อง CCTV ตามบ้านและฟาร์ม

  • เครื่องตรวจวัดสภาพอากาศ

  • ระบบควบคุมประตูหรือไฟฟ้าในอาคาร

  • ระบบติดตามรถ หรือรถขนส่งสินค้า

ข้อดีของอินเทอร์เน็ตความเร็วระดับนี้คือ “เสถียร ประหยัด และพอเพียง” สำหรับการใช้งานของเครื่องจักรหรืออุปกรณ์อัตโนมัติ
ต่างจากผู้ใช้งานทั่วไปที่เน้นความเร็วสูงเพื่อดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม ซึ่งต้องใช้ความเร็วหลายสิบหรือหลายร้อย Mbps ขึ้นไป

ดังนั้น หากมองในมุมของ การใช้งาน IoT แล้ว อินเทอร์เน็ตความเร็ว 1 Mbps ไม่ได้ “ล้าสมัย” อย่างที่หลายคนคิดเลยครับ
แต่กลับเป็น “ความเร็วที่พอดี” สำหรับโลกที่ทุกอย่างเริ่มเชื่อมต่อกันมากขึ้นเรื่อย ๆ

สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่า “ความเร็วสูง” ไม่ใช่คำตอบของทุกอย่าง
เพราะในโลกของอุปกรณ์อัจฉริยะนั้น สิ่งที่สำคัญกว่าคือ ความเสถียร ความต่อเนื่อง และการประหยัดพลังงาน
และนั่นแหละครับ คือจุดแข็งของอินเทอร์เน็ตความเร็ว 1 Mbps ที่ยังมีคุณค่ามาจนถึงทุกวันนี้













แชร์: